บุรุษผู้เป็นเจ้าของดวงตาแห่งเทพ - นิยาย บุรุษผู้เป็นเจ้าของดวงตาแห่งเทพ : Dek-D.com - Writer
×

    บุรุษผู้เป็นเจ้าของดวงตาแห่งเทพ

    โลกของผู้เเข็งแกร่ง สัตว์อสูรที่เก่งกล้า เจ้าปีศาจที่มากกว่าเป็นคำในตำนาน เเต่เรื่องนี้กลับพูดถึงชีวิตของเด็กหนุ่มบ้านๆที่อ่อนเเอ?..เพียงเเต่....ใครเป็นคนบอกหรือว่าความอ่อนเเอนั้นคืออะไร..หึหึ....

    ผู้เข้าชมรวม

    10,728

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    30

    ผู้เข้าชมรวม


    10.72K

    ความคิดเห็น


    89

    คนติดตาม


    247
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  14 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  22 มิ.ย. 59 / 22:04 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    นิยายเเนวผจญภัยกับสัตว์อสูร  เเละพระเอกฝึกพลังไว้ต่อกรกับปีศาจ  เพื่อกู้ศักดิ์ศรีคืนมา .......... 


              # ลองอ่านดูค่ะ  ^^

    "วันที่ 8/06/59
    มาอัพข้อมูลเบื้องต้นค่ะ  ก่อนหน้านี้ลืมไป  แหะๆ
    (ไม่ได้มีส่วนต่อเนื่องกับเนื้อหา  เเต่กันงงเอาไว้ว่าประมาณนี้นะ  ฯลฯ   เเต่ที่จริงในเนื้อก็มีอธิบายเพิ่มอยู่เเล้ว)"

    ข้อมูลเบื้องต้น

     

    ในโลกนี้นั้นมนุษย์ต้องเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งของเหล่าอสูร  ตำนานแห่งความโหดร้ายเริ่มมาจากการที่เหล่ามนุษย์เชื่อว่าเจ้าปีศาจซึ่งปรากฏตัวอย่างลี้ลับ  ไม่ทราบแหล่งกำเนิดที่แท้จริง  บ้างเชื่อว่าความคิดของมนุษย์ที่เสื่อมโทรมไปรวมกันและก่อตัวขึ้นเป็นมารที่ชั่วร้าย  บ้างบอกว่าเป็นสัตว์นรกตนหนึ่งที่หลุดจากขุมนรก  โดยที่มันมีความสามารถพิเศษที่เหมาะสมกับการเป็นเจ้าปีศาจอย่างมากคือ ทักษะปล่อยจิตชั่วร้าย  โดยมันปล่อยไปที่สัตว์อสูรจำนวนมาก  ทำให้ก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ชั่วร้ายมากขึ้นด้วยเพราะพลังวิญญาณชั่วร้ายเข้าไปแฝง  ดังนั้นต่อมาเหล่าสัตว์ป่าที่เคยอ่อนแอ  กลับแข็งแกร่งเป็นอย่างมากถึงขึ้นกระต่ายตัวจ้อยกลับมาเป็นเครื่องจักรสังหารได้  อีกทักษะหนึ่งของเจ้าปีศาจคือการบิดเบือนมิติ  มันเที่ยวสร้างมิติบิดเบือนไว้ทั่วโลกแล้วลากอสูรที่มันเปลี่ยนแปลงให้เกิดวิวัฒนาการรุ่นแรกๆส่งไปสังหารมนุษย์

    จากเหตุการณ์นี้มนุษย์เกิดการสูญเสียเป็นอย่างมาก  จนกระทั่งท่านเทพเจ้าคงสงสาร  หรือไม่ก็มนุษย์ต้องปรับตัวให้อยู่รอด  แต่ความคิดส่วนใหญ่เชื่อไปในแนวคิดแรก  ว่ากันว่าท่านเทพมอบพลังให้มนุษย์ไปต่อกรกับเหล่าปีศาจและอสูร  อย่างแรกคือพลังพิเศษ  หรือพลังวิญญาณ  ซึ่งมนุษย์เพิ่มได้ด้วยการฝึกและดูดซับพลังวิญญาณอสูรเข้ามาในร่างกาย  โดยยังแบ่งความแข็งแกร่งออกเป็นระดับด้วยการวัดวิถีมนุษย์คือ 100 ระดับ  ซึ่งเริ่มแรกแบ่งจากการที่เมื่อระดับแตะถึงทุกๆ 25 ระดับ จะได้รับพรวิเศษณ์ในการวิวัฒนาการ 1 อย่าง  และต่อมาจึงแบ่งยิบย่อยออกได้ละเอียดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกฝีมือ   อีกอย่างหนึ่งก็คือพรวิเศษณ์ที่กล่าวได้กล่าวถึงนั่นคือพรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด 1 ทักษะ เช่นการที่มนุษย์สามารถเรียกใช้ทักษะมองระยะไกลได้  วิ่งเร็ว  บินได้ เป็นต้น  และในทุกๆการเพิ่มขึ้น 25 ระดับ  จะได้รับทักษะเพิ่ม 1 ทักษะ

    หากพูดถึงสัตว์อสูรแล้ว  ที่จริงอสูรมี 2 ประเภทคืออสูรปีศาจและอสูรธรรมดา  เริ่มจากอสูรปีศาจนั้นเชื่อว่าเป็นอสูรรุ่นแรกๆที่เจ้าปีศาจได้ผนึกพลังชั่วร้ายใส่เข้าไป  ดังนั้นมันจึงได้ชื่อว่าสาวกของเจ้าปีศาจ  แต่อสูรธรรมดานั้นเป็นเพียงลูกหลานของอสูรปีศาจที่มีพลังชั่วร้ายลดลงเป็นอย่างมากแล้ว  และอสูรประเภทนี้เองเป็นอสูรที่มนุษย์สามารถทำสัญญากับมันได้   

    การเพิ่มของระดับอสูรนั้นยังสามารถเพิ่มได้โดยวิธีปกติที่พวกมันเพิ่มระดับ  และในการเพิ่มระดับของอสูร  มนุษย์ที่ทำสัญญาด้วยจะไม่ได้รับประโยชน์ใดใด  แต่หากมนุษย์ดูดซับพลังวิญญาณเข้ามาอสูรสามารถดึงพลังวิญญาณได้มากที่สุดถึง 50%  จากพลังวิญญาณที่ดูดซับ   โดยความสามารถในการดูดซับนั้นขึ้นกับตัวอสูรเอง  ยิ่งมีระดับมากกว่ามนุษย์มากเท่าไรจะแย่งพลังวิญญาณมาได้มากเท่านั้น  ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่มนุษย์มักไม่ทำสัญญากับอสูรเป็นจำนวนมากเกินไป  เพราะเมื่อต้องการเพิ่มพลังจะช้าเป็นอย่างมาก   แต่ไม่ใช่แค่มนุษย์ที่ไม่อยากทำสัญญากับสัตว์อสูรจำนวนมาก  หากมองมุมกลับกันอสูรนั้นไม่มีตัวใดอยากทำสัญญานี้เลย  เนื่องจากเมื่อทำสัญญาไปแล้วก็เหมือนกับขายวิญญาณตนเองไป  อิสระที่เคยมีจะหายไป  ยิ่งเป็นอสูรระดับต่ำๆจะลำบากเพราะว่ามันมีค่าแค่ตอนระดับมนุษย์เจ้านายมันต่ำอยู่  แต่เมื่อเจ้านายมันมีระดับพลังที่สูงขึ้นแล้วก็มักจะทิ้งมันไว้   ไม่ยอมอัญเชิญออกมา  แล้วหันไปทำสัญญากับอสูรระดับสูงแทน

    สำหรับการอัญเชิญอสูรหมายถึงการที่เดี๋ยวนี้มนุษย์มีการสร้างอุปกรณ์เวทย์หลายอย่าง  ทำให้สามารถสร้างแหวนมิติที่เก็บสิ่งมีชีวิตไว้ข้างในได้   การที่มีสัตว์อสูรในสัญญามากไป  เมื่อไม่ต้องการยกเลิกสัญญา  แต่ก็ไม่อยากแสดงอสูรทั้งหมดที่ตนมีออกมา  เพราะเปรียบเสมือนเปิดไพ่ในมือออกมาทุกใบ  ผู้ที่มีอสูรมากกว่า 1 ตัวจึงมักเก็บอสูรตนเองเอาไว้ในแหวนมิตินี้  และเมื่อต้องเรียกออกมาต่อสู้ก็แค่ใช้สมาธิเหมือนที่หยิบสิ่งของในแหวนมิติอื่นๆได้   แต่เพื่อความเข้าใจตรงกันจึงเรียกว่า “อัญเชิญอสูร” นั่นเอง





           ปล.เม้นได้  ชมได้  ติได้  ติดตามได้  อ่านได้     

    .....ไม่กัดค่าาาาาาาา   .....ฮ่าๆ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น